วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

1. VARCHAR (ย่อมาจาก Variable Character Field อ่านว่า วาร์คาร์ หรือ วาร์ชาร์) หมายถึงกลุ่มข้อมูลตัวอักขระที่ไม่สามารถระบุความยาวได้ คำนี้มักใช้เป็นชนิดข้อมูลในระบบจัดการฐานข้อมูล ชนิดข้อมูลประเภท varchar สามารถเก็บข้อมูลตัวอักขระขนาดเท่าใดก็ได้ที่ไม่เกินความยาวที่จำกัดไว้ การจำกัดความยาวก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละฐานข้อมูล

2. TINYINT : สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น

3. TEXT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่สามารถเก็บได้มากขึ้น โดยสูงสุดคือ 65,535 ตัวอักษร หรือ 64KB เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลพวกเนื้อหาต่างๆ ที่ยาวๆ


4. DATE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ โดยเก็บได้จาก 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 โดยจะแสดงผลในรูปแบบ YYYY-MM-DD


5. SMALLINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT


6. MEDIUMINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT

7. INT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 32 บิต หรือสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -2147483648 ไปจนถึง 2147483647 ครับ (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 4294967295 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT

8. BIGINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 64 บิต สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -9223372036854775808 ไปจนถึง 9223372036854775807 เลยทีเดียว (แบบคิดเครื่องหมาย)

9. FLOAT[(M,D)] : ที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ในตระกูล INT นั้นจะเป็นเลขจำนวนเต็ม หากเราบันทึกข้อมูลที่มีเศษทศนิยม มันจะถูกปัดทันที ดังนั้นหากต้องการจะเก็บค่าที่เป็นเลขทศนิยม ต้องเลือกชนิดขอฟิลด์เป็น FLOAT โดยจะเก็บข้อมูลแบบ 32 บิต

10. DOUBLE[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่มีขนาดเป็น 64 บิต สามารถเก็บได้ตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308, 0 และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308

11. DECIMAL[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง

12. DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS

13. TIMESTAMP[(M)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลาเช่นกัน แต่จะเก็บในรูปแบบของ YYYYMMDDHHMMSS หรือ YYMMDDHHMMSS หรือ YYYYMMDD หรือ YYMMDD แล้วแต่ว่าจะระบุค่า M เป็น 14, 12, 8

14. TIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ -838:59:59 ไปจนถึง 838:59:59 โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HH:MM:SS

15. YEAR[(2/4)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทปี ในรูปแบบ YYYY หรือ YY แล้วแต่ว่าจะเลือก 2 หรือ 4 (หากไม่ระบุ จะถือว่าเป็น 4 หลัก) โดยหากเลือกเป็น 4 หลัก จะเก็บค่าได้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 ถึง 2155 แต่หากเป็น 2 หลัก จะเก็บตั้งแต่ ค.ศ. 1970 ถึง 2069

16. CHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร แบบที่ถูกจำกัดความกว้างเอาไว้คือ 255 ตัวอักษร ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับ VARCHAR หากทำการสืบค้นโดยเรียงตามลำดับ

17. TINYBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์

18. TINYTEXT : ในกรณีที่ข้อความยาวๆ หรือต้องการที่จะค้นหาข้อความ โดยอาศัยฟีเจอร์ FULL TEXT SEARCH ของ MySQL เราอาจจะเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลลงในฟิลด์ประเภท VARCHAR ที่มีข้อจำกัดแค่ 256 ตัวอักษร แต่เราจะเก็บลงฟิลด์ประเภท TEXT แทน โดย TINYTEXT นี้ จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 256 ตัวอักษร

19. BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ 64

20. KBMEDIUMBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 16MB


21. MEDIUMTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 16,777,215 ตัวอักษร

22. LONGBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 4GB

23. LONGTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 4,294,967,295 ตัวอักษร

24. SET : สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ยอมให้เลือกได้ 1 ค่าหรือหลายๆ ค่า ซึ่งสามารถกำหนดได้ถึง 64 ค่า

25. ENUM(Enumeration) : หมายถึงเซตของข้อมูลชุดหนึ่งที่มีจำนวนสมาชิกที่กำหนดไว้แน่นอนและทราบค่าทุกตัว ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่มีลักษณะคงที่

26. BINARYระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น

27. BOOL คือข้อมูลที่มีค่าเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False)

28. VARBINARY คือ มีลักษณะการเก็บคล้าย Varcha คือการเก็บข้อมูลตามที่รับมาจริงเท่านั้น มีขนาดสูงสุดมากถึง 8000 ไบต์

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การติดตั้ง Appserv 2.5.9

ทำการดาวน์โหลดโปรแกรม Appserv 2.5.9 จาก http://kitt.kvc.ac.th แล้วทำการ Save โปรแกรมลงเครื่องคอมฯ แล้วทำการติดตั้งโปรแกรมโดยดับเบิ้ลคลิกที่ Appserv 2.5.9 ที่ได้ทำการดาวน์โหลดมา
จากนั้นเราก็จะเข้าสู่หน้าจอ Welcome to Appserv 2.5.9 เราก็คลิก Next เพื่อไปสู่หน้าต่อไปที่เป็นการ
บอกเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และเงื่อนไขในการติดตั้งโปรแกรมหากยอมรับในเงื่อนไขหรือลิขสิทธิ์ก็ คลิก I Agree เพื่อทำการยอมรับเงื่อนไข จากนั้นโปรแกรมจะถามว่าต้องการจัดเก็บโปรแกรมไว้ที่ไดร์ฟใดจากนั้นก็คลิก Next จากนั้นจะปรากฎจอภาพที่ให้เลือก Package โดยเราจะทำเครื่องหมายถูกไว้ข้างหน้ารายการที่เลือกทั้งหมดเนื่องจากมีความสัมพันธ์กันจากนั้นคลิก Next เพื่อเข้าสู่หน้าต่อไป ซึ่งจะมีหน้าจอขึ้นมาเพื่อให้ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับ web server โดยให้ระบุ localhost ไว้ในช่องที่ 1 ส่วนช่องที่ 2 ให้ใส่ E-mail แล้วคลิก Next จากนั้นก็จะมีหน้าจอเพื่อให้เราใส่ password เมื่อใส่ password เสร็จ ก็คลิกปุ่ม Install
เป็นอันเสร็จสิ้น

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

1.databaseหมายถึง ฐานข้อมูล ชุดของข้อมูลที่รวมเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องราวเดียวกันรวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นชุดข้อมูล เช่น ฐานข้อมูลนิสิต ฐานข้อมูลค้า และ ฐานข้อมูลวิชาเรียน เป็นต้น

2.DBMS (data base management system)หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อจะได้นำไปเก็บรักษา เรียกใช้ หรือนำมาปรับปรุงให้ทันสมัยได้ง่าย

3.Database Administrators : DBAsหมายถึง บุคลากรที่ทำหน้าที่บริการและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทั้งหมดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าในระบบ จัดเก็บโดยวิธีใด เทคนิคการเรียกใช้ข้อมูล กำหนดระบบวิธีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การสร้างระบบข้อมูลสำรอง การกู้และประสานงานกับผู้ใช้ว่ามีความต้องการใช้ข้อมูลอย่างไร รวมถึงการวิเคราะห์และการออกแบบระบบ เพื่อให้นักเขียนโปรแกรมนำไปเขียนโปรแกรมที่ใช้ในการบริหารงานระบบฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.Database Developmentหมายถึงนักวิจัยผู้ที่ทำงานด้านวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งในและนอกสถาบันการศึกษา

5.Data Definition Language : DDLเป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา (Schema)

6.Data Interrogationความสามารถในการสืบค้นฐานข้อมูลเป็นผลประโยชน์หลักของระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลสำหรับการขอสารสนเทศจากฐานข้อมูล

7.Graphical and Natural Queriesผู้ใช้หลายรายลำบากที่จะแก้ไขวลีของ SQL และคำถามภาษาฐานข้อมูลอื่นๆ ดังนั้นโปรแกรมสำเร็จรูปฐานข้อมูลส่วนใหญ่จึงเสนอวิธีการชี้และคลิกส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Graphical User Interface : GUI) ซึ่งง่ายต่อการใช้และใช้ซอฟต์แวร์แปลให้เป็นคำสั่ง SQL หรือโปรแกรมสำเร็จรูปอื่นที่อาจใช้ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) ที่คล้ายกับการสนทนาภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ

8.Application Developmentโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูลมีบทบาทหลักในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์

9.Data Manipulation Language : DMLการจัดการข้อมูลหมายถึง การเพิ่มข้อมูลใหม่ลงในฐานข้อมูล, การลบข้อมูลที่มีอยู่ในฐานข้อมูล, การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลในฐานข้อมูล และการค้นคืนข้อมูลจากฐานข้อมูล

10.Subject Area Database : SADBฐานข้อมูลซับเจ็กแอเรีย ฐานข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง

11.Analytical Databaseเก็บข้อมูลและสารสนเทศที่ดึงมาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการและฐานข้อมูลภายนอก ประกอบด้วยข้อมูลสรุปและสารสนเทศที่จำเป็นต่อผู้จัดการองค์กรและผู้ใช้

12.Multidimensional Databaseเป็นฐานข้อมูลที่เข้าถึงโดยระบบประมวลผลเชิงวิเคราะห์แบบต่อตรง

13Data Warehousesเก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ โดยดึงจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ

14.Distributed Databasesฐานข้อมูลแบบกระจาย หลายๆ องค์กรทำซ้ำ และกระจายสำเนา หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่

15.End User Databasesฐานข้อมูลผู้ใช้ ประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ

16.Fieldเป็นหน่วยข้อมูลที่ประกอบมาจากอักขระต่าง ๆ หลายอักขฟระ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ที่ประกอบด้วยอักขระหลาย ๆ ตัว

17.Recordจะเป็นการนำฟิลด์หลาย ๆ ฟิลด์มาร่วมกัน เช่น เรคอร์ดลฟูกค้า ก็จะเก็บฟิลด์ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ประกอบด้วยชื่อ ที่อยู่ หรือ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น

18.Tableจะเป็นการนำเรคอร์ดหลาย ๆ เรคอร์ดมารวมกัน เช่น ตารางลูกค้า จะประกอบด้วยเรอร์ดของลูกค้าที่เป็นลูกค้าแต่ละราย

19.Entityเป็นคำที่อ้างอิงถึง บุคคล สถานที่ และสิ่งของต่าง ๆ เช่น สินค้า ใบสั่งซื้อ และลูกค้า เป็นต้น ถ้าเราสนใจในการสร้างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า

20.InfraStucture Managementหมายถึงการจัดการโครงสร้างพื้นฐานของระบบเครือ การพัฒนาโครงสร้างที่เอื้ออำนวยให้เกิดความเจริญเติบโตต่างๆทั้งในด้านนโยบายและด้านกายภาพ เช่น

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

คำศัพท์

1) Speed (สปีด) ความเร็ว
2) Components (เคิมโพเนินท์) ส่วนประกอบ
3) Power (เพาเออร์) กำลังความสามารถ
4) Communicate (คอมมูนิเคท์) ติดต่อ
5) other (อัธเธอร์) อื่นๆ
6) Controller (เคินโทรเลอร์) ผู้ควบคุม
7) Memory (เมมโมรี) หน่วยความจำ
8) Actual (แอคชวล) แท้จริง
9) Opreate (ออพพะเรท) ปฏิบัติการ
10) Connect (คอนเนคท์) สัมพันธ์
11) Standards (สแตนเดิร์ด) กำหนด
12) Shape (เชพ) ทรวดทรง
13) System (ซิสเติม) ระบบ
14) Time (ไทม์) วลา
15) Mind (ไมนด์) ความทรงจำ
16) Then (เธน) ดังนั้น
17) Data (ดาทะ) ข้อมูล
18) Information (อินฟอร์เมชัน) ข้อมูลข่าวสาร
19) Next (เนคซ์) ถัดไป
20) Shopper (ชอพเพอร์) ผู้บริโภค
21) Place (เพลซ) สถานที่
22) Processor (พรอซเซซเซอร์) เครื่องประมวลผล
23) Faster (เฟสเธอ) เร็วขึ้น
24) Slow (สโล) ช้า
25) Amount (อะเมานท์) จำนวนรวม
26) About (อะเบาท์) ในเรื่อง
27) Independent (อินดิเพนเดินท์) เป็นกลาง
28) Port (พอร์ต) ช่องทาง
29) Error (เอเรอร์) ผิดพลาด
30) Settings (เซททิง) การตั้งค่า
31) Provides (พระไวด์) ให้บริการ
32) Fit (ฟิต) เข้ารูป,พอดี
33) Network (เนคเวิร์ค) เครือข่าย
34) Well (วิล) ดี
35) Check (เชค) ตรวจสอบ
36) Kind (ไคนด์) ประเภท
37) Advances (แอดแวนซ์) ก้าวหน้า,ขั้นสูง
38) Itself (อิทเซลท์) ตัวเอง
39) Enhances (เอนแฮนเชส) ช่วยเพิ่ม
40) Job (จอป) ชิ้นงาน
41) Plugged (พลักเก็ต) เชื่อม
42) Equipment (อิควิพเมินท์) เครื่องมือ
43) Everything (เอฟว์รีธิง) ทุกสิ่งทุกอย่าง
44) Another (อะนัธเธอร์) อีกอย่างหนึ่ง
45) Receive (ริซีฟว์) ได้รับ
46) Boast (โบซท์) การาคุยโอ้อวด
47) General (เจนเนอเริล) โดยทั้วไป
48) Years (เยียร์) ปี
49) Basic (เบสิค) ขั้นพื้นฐาน
50) Updating (อัพเดท) ปรับปรุงเพื่อให้ทันสมัย

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แบบฝึกหัดบทที่ 6


1)ส่วนปรพกอบและปุ่มต่างๆ

ตอบ
1 คือ เฟรม ที่ใช้แสดงลำดับภาพนิ่งแต่ละส่วน
2 คือ ตัวกำหนดเวลาในการแสดงผล (ยิ่งน้อย ยิ่งดูคลาสิก)
3 คือ ปุ่มควบคุมการวนซ้ำ ถ้า Forever คือวนรอบไปเรื่อยๆ ถ้าวนรอบ 1 รอบใช้ Once
4 คือ ปุ่มควบคุม ที่ใช้แสดงตัวอย่างของภาพ Animation หรือจะกระโดดไปที่ดฟรมอื่นๆ ตามที่ต้องการใช้
5 คือ ปุ่มสร้างภาพ Animation อย่างต่อเนื่อง ที่โปรแกรมคำนวณเฟรมอยู่ระหว่างเฟรมเริ่มต้นและเฟรมสุดท้าย
6 คือ ปุ่มสร้างเฟรมใหม่ ซึ่งจะใช้เมื่อต้องการสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ๆ เข้าไป
7 คือ ปุ่มลบเฟรม เอาไว้ลบเฟรมที่ไม่ต้องการทิ้งไป


2) อธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรเคลื่อนไหวแบบ Fade

ตอบ
1 สร้างไฟล์ขนาด 250*89 pixel, Resolution 72, Mode RGB, Backgroud Write
2 เลือกเครื่องมือ Type Tool จากนั้นคลิกพิมพ์ข้อความ
3 ให้ทำการคัดลอกเลเยอร์ ( Duplicate layer)จนครบอีก 3 อัน และทำการแก้ไขในแต่ละเลเยอร์
4 ไปที่เมนู Windows ---Animation เพื่อทำการเรียกเมนูเคลื่อนไหวออกมา
5 ทำการคัดลอกเฟรมให้ได้ 4 เฟรม โดยไปที่ปุ่ม Duplicates Select Frames
6 กำหนดเวลาทุกเฟรม โดยกด (Shift+คลิกแต่ละเฟรมX) จากนั้นไปที่มุมเวลาเฟรมสุดท้ายคลิกแล้วจะปรากฏเวลาขึ้นมาให้เลือก เลือก 1 วินาที


3) อธิบายวิธีการสร้าง Gallery ภาพถ่ายให้กับเว็บไซต์

ตอบ
1 สร้างโฟลเดอร์ไว้สำหรับเก็บไฟล์ที่ต้องการ
2 สร้างไฟล์ขนาด 400 pixels*300 pixels แล้วเก็บไว้ในโฟลเดอร์
3 ไปที่เมนู file---Automate---Web Photo Dally--จะปรากฏดังจอภาพ
4 เลือกรูปแบบหรือสไตล์ที่ชอบ(ซึ่งจะหฃปรากฏตัวอย่างให้ดู) คลิกเลือกปุ่มโฟลเดอร์แหล่งของภาพที่สร้างไว้ (ข้อ1) คลิกเลือกเส้นทางที่จะเก็บงานที่สร้าง Gally (จะต้องไม่ซ้ำกับโฟลเดอร์แหล่งภาพ) เลือกคุณสมบัติของภาพ แล้วตอบ OK

แบบฝึกหัดบทที่ 4

1) ให้นักศึกษาบอกข้อดีของ Adobe Photoshop CS3 พร้อมทั้งอธิบาย
ตอบ
Singie Column Toolber เมนูนี้เปลี่ยนไปจากCS2 คือมี 2 แถวในเวอร์ชี่น 3 เหลือ แถวเดียว นับว่าประหยัดพื้นที่
Quick Selection เป็นเครื่องมือการเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Black and White ให้ในการเปลี่ยนภาพของคุณให้เป็นโทนขาวดำ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
Auto Align และ Auto Blend ช่วยจัดเรียงภาพของคุณที่ใกล้เคียงให้โดยอัตโนมัติ
Bridge ที่พัฒนาใหม่ให้ไฉไลยิ่งขึ้นแตกต่างจากเวิอร์ชั่นจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นต้น

2)ให้นักศึกษาบอกเครื่องหมายของเครื่องมือใน Adobe Photoshop CS3 พร้อมอธิบาย
ตอบ

1. Move Tool ใช้ในการเลื่อน Layer และ Gude ต่าง ๆ
2. Marquee Tool ใช้ในการเลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า วงกลม ฯลฯ
3. Lasso Tool ใช้ในการเลือกแบบอิสระ
4. Magic Wand Tool ใช้ในการเลือกโดยอาศัยความสว่างและโทน
5. Crop Tool ใช้ในการเลือกบางส่วนของรูปภาพ
6. Slice Tool ใช้ในการสร้าง Slice หรือรูปย่อย ๆ
7. Healing Brush Tool ใช้ในการระบายสี ซ่อมแซมรูปภาพให้สมบูรณ์
8. Brush Tool ใช้ในการวาดเส้น
9. Clone Stamp Tool ใช้ในการคัดลอกรูปโดยอาศัยรูปภาพต้นฉบับ
10. History Brush Tool ใช้ในการกลับคืนรูปภาพเดิม
11. Eraser Tool ใช้ในการลบรูปภาพหรือลบบางส่วน
12. Paint Bucket Tool ใช้ในการเติมสี Fill ในบริเวณที่เป็นสีเดียว
13. Smudge Tool ใช้ในการดึงสีให้ไปใกล้กัน
14. Burn Tool ใช้ลดความสว่าง ทำให้ภาพดูมืดลง
15. Pen Tool ใช้ในการลากเส้น path
16. Type Tool ใช้ในการพิมพ์ตัวอักษร
17. Path Selection Path ใช้ในการเลือก Shape หรือ Path
18. Custom Shape Tool ใช้เลือกรูปภาพที่มีรูปร่างเฉพาะ
19. Animations Tool ใช้เขียนโน้ต หรือแนบเสียงไปกับรูปภาพได้
20. Eyedropper Tool ใช้ในการดูดสีจากรูปภาพ
21. Hand Tool ใช้เลื่อนภาพที่อยู่หน้าต่างเดียวกัน
22. Zoom Tool ใช้ย่อ-ขยายภาพ็็็็็็็็็

แบบฝึกหัดบทที่ 5

1 )ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างปุ่มและอักษร 3 มิติ
ตอบ

1.ทำการสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ โดยกำหนดขนาด 300*135 ความละเอียด 72
2.เลือกเครื่องมือ rectangular tool แดรกเมาส์ตีกรอบสี่เหลี่ยม
3.เลือกเครื่องมือ Gradient Tool เลือกเฉดสีที่จะทำการไล่เฉดสี
4.ย่อเส้นปะเข้ามาอีก 10 จุด โดยไปที่เมนู Select >> Modify >> Contact ใส่ตัวเลข 10 แล้วกดปุ่ง Ok
5.แดรกเมาส์จากขวาไปซ้าย
6.ไปที่เครื่องมือ Type Tool เพื่อทำการพิมพ์อักษร
7.ไปที่เมนู Layer >> Type >> Conveert to Shape จะเห็นกรอบข้อความจากนั้นไปที่ Edit >>
Transform >> Perspective แดรกเมาส์ที่มุมเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามรูปทรงที่ต้องการแล้วกด Enter เมื่อได้ภาพที่ต้องการ
8.ทำอักษรให้นูนโดยไปที่ Layer >> Layer Style >> Bevel and Emboss แล้วก็ปรับเอาตามความต้องการ
9.เมื่อปรับเสร็จตามความต้องการแล้วก็กดปุ่ม Ok
2)ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรลำแสง
ตอบ

1.สร้างไฟล์ขึ้นมา ขนาด 500*350 ความละเอียด 100
2.เลือกเครื่องมือ Paint Tool เทสีลงไปตามต้องการ เพื่อเป็น Background
3.เลือกเครื่องมือ Type Tools เพื่อพิมพ์ตัวอักษร
4.กดคีย์บอร์ด Ctrl+J เพื่อ Duplicate Layers จากนั้นเปลี่ยนสีตัวอักษรที่ Copy มา หลังจากนั้นทำการซ่อน Layer ที่ Copy มา จากนั้นก็คลิกรวม Layer โดยกดคีย์บอร์ด Ctrl+E
5.ไปที่เมนู Filter >> Stylize >> Wind แล้วติ๊กเครื่องหมาย หน้าช่อง Wind และ From the Right ( Layer คลิกอยู่ที่ Background )
6.กดคยืบอร์ด Ctrl+J เพื่อ Duplicate Layers แล้วไปที่เมนู Filter >> Stylize >> wind แล้วติ๊กเครื่องหมาย หน้าช่อง Wind และ From the Right ( Layer คลิกอยู่ที่ Background )

3.ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของเครื่องมือต่อไปนี้
ตอบ

1.เป็นตัวเชื่อมระหว่าง Layer
2.เป็นส่วนที่ใส่ Effecf เช่น แสง เงา
3.เป็นส่วนที่เพิ่มเติม Mak หรือ เพิ่ม Layer
4.เป็นส่วนที่ใช่ปรัค่าแสงความสว่าง ปรับค่าสี ความคมชัด
5.เป็นส่วนที่สร้าง Fonder สำหรับเก็บ Layer
6.เป็นเครื่องหมายการสร้าง Layer ขึ้นมาใหม่
7.เป็นปุ่มที่ใช่ลบ Layer ที่ไม่ต้องการ




















วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คำว่าเพื่อน

เพื่อนคือผ้าเช็ด น้ำตาเวลาเศร้า
เพื่อนคือเงา เวลาเหงา ไม่ไปไหน
เพื่อนคือคนปลอบทุกข์ ยามไม่สุขใจ
เพื่อนคือใครคนหนึ่ง ที่หวังดี
เพื่อนคือคนช่วยงาน ไม่ต้องเอ่ย

เพื่อนคือคนที่ไม่เคยซ้ำเติม หรือวิ่งหนี


(มะได้เจ้าชู้แค่อยากรู้ว่าใครจริงใจ)

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การทำส่วนหัวด้วยอักษรลำแสง

1.ทำการสร้างไฟล์ใหม่ โดยใช่ขนาด กว้าง 1010 สูง 125 ความละเอียด 100
2.เลือกเครื่องมือ Paint Tool (ถังสี) ทำพื้นโดยเลือกสีตามชอบ
3.เลือกเครื่องมือ Type Tools เพื่อพิมพ์อักษร
4.กดคีย์บอร์ด Ctrl+J เพื่อ Duplicate Layers เมื่อ Copy เสร็จทำการรวม Layers โดยกด Ctrl+E
5.ไปที่เมนู Filter >> Stylize >> wind แล้วติก คำว่า wind และ From the Right (เลเยอร์คลิกอยู่ที่ พื้นหลัง)
6.ทำการตกแต่งโดยใส่รูปลงไป ก็เป็นการเสร็จเรียบร้อย

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การสร้างโลโก้ด้วยอักษ

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การสร้าอักษร 3 มิติ

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การติดตั้ง Adobe Photoshop CS3
1.ไปที่ Internet Explorer Browser จากนั้นพิมพ์ ข้อความต่อไปนี้ ที่ Address:(http://kitt.kvc.ac.th/)
2. คลิก Start Download จากนั้นรอการ Downloadคลิก Open folder
3. เมื่อ Download ไฟล์มาเสร็จ ให้ทำการ UnZip ไฟล์ ก็จะได้ไฟล์ Setup เพื่อดำเนินการติดตั้งให้ดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์ดังกล่าว จากนั้นให้คลิดที่ปุ่ม Try Again เพื่อลองใหม่อีกครั้ง
4. โปรแกรมจะถามว่า จะยอมรับลิขสิทธิ์ และเงื่อนไขต่างๆตามที่ตกลงหรือไม่(ตอบAccept ยอมรับ)
5. โปรแกรมจะถามเส้นทาง หรือแหล่งที่จะติดตั้งโปรแกรม (ไดรฟ์ต่างๆ ให้เลือกไดรฟ์ c)จากนั้นคลิก Next เพื่อทำงานต่อไป
6. โปรแกรมจะเริ่มทำการติดตั้ง คัดลอกไฟล์ต่างๆ ลงบนไดรฟ์ c (ไดรฟ์ที่เราเลือกเพื่อติดตั้ง)
7. เมื่อติดตั้งเสร็จ (ไม่มีปัญหา) โปรแกรมจะแจ้งว่า Installation Completed ซึ่งแปลว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
8. คลิกปุ่ม Finnish ซึ่งหมายถึงเสร็จสิ้นขั้นตอนกาติดตั้ง จากนั้นเมื่อเลือกใช้โปรแกรมๆจะทำการถามว่า จะใส่โปรแกรม (Serial Number)ซึ่งปกติจะมีมากับแผ่นโปรแกรม โดยให้ใส่เข้าในช่องสีเหลี่ยมแล้วคลิด Next เพื่อนทำงานต่อไป
9. โปรแกรมจะถามเพื่อให้ทำการลงทะเบียนเพื่อ update และรับข้อมูลข่าวสารต่างๆของโปรแกรม ถ้าเราลงทะเบียนก็ให้คลิกใส่ข้อมูลทุกช่อง แล้วคลิกปุ่ม Register Now (ในที่นี้เราไม่ลงทะเบียนให้คลิกปุ่ม Register later)10. เข้าสู่หน้าจอสุดท้าย ซึ่งเราเลือก Do not register (หมายถึงไม่ลงทะเบียน) แล้วก็คลิกปุ่ม Continue ก็จะเป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม Adobe PhotoshopCS3

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การติดตั้งและการถอน Nod 32 V.4

การติดตั้ง
1.เข้าไปที่เว็บของอาจารย์(http://kitt.kvc.ac.th)
2.คลิกคำว่า Download >> คลิก Nod 32 v.4 เพื่อ Download
3.ติก Add the duplicate คลิก Ok
4.เลือกพื้นที่ที่จะจัดเก็บ >> คลิก Start Download >> คลิก Open folder >> เข้าไปที่พื้นที่ที่จัดเก็บ >> ทำการแตก Folder >> คลิกขวาไปที่คำว่า Extract Here
5.คลิก Next แล้วติกคำว่า I accep >> คลิก Next >> Next
6.คลิก Typical >> Next >> Next
7.จะเริ่มการติดตั้งโปรแกรม >> คลิก Install >> คลิก Next >> คลิก Finish
การถอน
1.คลิก Strt >> คลิก All Program
2.มาที่ Accessories
3.จะเห็นคำว่า ESET >> คลิก Uninstall
4.คลิก Next >> คลิก Remove >> คลิก Next
5.คลิก Remove >> คลิก Finish
6.คลิก Yes เครื่องจะทำการรีสตาร์ทอัตโนมัติ

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การลง windows



1. เปิดเครื่อง สั่ง BIOS ให้ boot จาก CD-ROM หลังจาก exit และ save BIOS แล้วเครื่องจะ restart

2. ใส่ แผ่น windows XP เข้าไปใน CD-ROM Drive

3. จะพบข้อความ press any key to boot from CD.. ให้กดปุ่ม enter เพื่อ boot เครื่องจาก CD-ROM Widows XP

4. จะมีการ copy ไฟล์หรือข้อมูลบางส่วน ให้น้องรอไปก่อน

5. เมื่อพบหน้าต่าง welcome to setup ให้เริ่มติดตั้งได้ทันทีโดยกดปุ่ม enter เพื่อทำข้นตอนต่อไป

6. จะปรากฏข้อความเกี่ยวกับการใช้งาน windows XP (หน้าจอเขียนว่า Windows XP Licensing) ให้กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับรายละเอียดดังกล่าว

7. พอมาถึงขั้นตอนนี้ จะเป็นการเลือกติดตั้ง Windows XP ลงใน partition ใด น้องจะพบคำสั่งให้เลือก 3 แบบคือ-ติดตั้งใน partition ที่เลือกไว้ ให้ กด enter-สร้าง partition ใหม่กด C-ลบ partition นั้นกด Dพี่สมมติว่าน้องจะเลือกลงใน partition ที่เลือกไว้คือ Drive C นะ ให้น้องกด Enter เพื่อติดตั้งที่ Drive C

8. เลือกระบบไฟล์ที่ต้องการ (ความเห็นส่วนตัวของผม ผมลงเป็น NTFS แล้วเครื่องเร็วกว่า FAT ) โดยกดปุ่มลูกศรขึ้นลง แนะนำว่าเลือกตัวเลือกที่ 3 หรือ 4 ครับ หลังจากนั้นกด enter

9. ปรากฏหน้าจอให้ format (to continue and format the partition ,press enter) ให้กด enter

10. Windows จะเริ่ม format

11. หลังจาก format แล้วมันก็จะ copy ข้อมูลลงใน HD

12. หลังจากนั้นปรากฏหน้าจอ This partition of setup has completed……ให้กดปุ่ม enter เพื่อ restart เครื่อง

13. หลังจากเครื่องเริ่ม restart อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกว่าจะขึ้นหน้าจอ Windows CP Professional

14. จะเห็นวินโดว์ตรวจสอบค่าต่างๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีอะไรของมันไปตามเรื่อง คุณก็อ่านเล่นๆ ไปพลางๆ ก่อนได้

15. รอสักหน่อยก้จะปรากฏหน้าต่าง Regional and language Option ออกมา

16. คลิ๊กที่แท็บ languages

17. คลิ๊กถูกที่ข้อความ install files for complex scipt….แล้วตอบ OK และคลิ๊กถูกที่ install files for East Asian language แล้วตอบ OK

18. จากนั้น คลิ๊กที่แท็บ advanced

19. เลือกภาษาไทย แล้วกด Apply เครื่องจะ copy ไฟล์ font ภาษาไทย (ขั้นตอนนี้ใจเยนรอสักครู่)

20. หลังจากนั้นคลิ๊กที่แท็บ regional option แล้วเลือกไทย location ก็เลือกเป็น Thailand

21. คลิ๊ก next

22. จะปรากฏหน้าต่าง personalize Your software ให้คุณตั้งชื่อตามใจที่คุณต้องการ ส่วนช่อง Organization เลือกพิมพ์เป็นอะไรก็ได้

23. คลิ๊ก next

24. กรอกหมายเลขแผ่น windows XP ซึ่งมี 25 ตัว

25. คลิ๊ก next

26. กรอกชื่อ computer ของคุณ ที่ช่อง computer name

27. ตั้ง password หรือไม่ตั้งก็ได้ตามใจ

28. คลิ๊ก next

29. ตั้งวันที่ให้ตรง ที่ time zone เลือก GMT +7 Bangkok

30. คลิ๊ก next

31. เลือการติดตั้งแบบ Typical

32. คลิ๊ก next

33. กรอกข้อมูลเครือข่ายกรณีที่คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใส่ชื่อเครือข่ายของคุณ ถ้าคุณมี modem มันก็ให้คุณ set ค่าต่างๆ ขณะนั้นเลย คุณก็กรอกไป

34. คลิ๊ก next และรอต่อไปจนกระทั่งมัน restart ใหม่

35. อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกระทั่งมันขึ้น logo Windows Xp professional

36. ถ้าเครื่องคุณเป็น VGA on Board มันก็จะปรับขนาดจอภาพให้คุณจนขึ้นมองได้ชัดเจนแล้วให้กด OK แต่ถ้าเป็น VGA ต่างหากมันจะข้ามขั้นตอนนี้ไป

37. จะปรากฏหน้าจอ Welcome to………. .ให้คุณคลิ๊ก next ด้านล่างขวา

38. หากคุณต่อ internet มันจะเชื่อมต่อ internet เพื่อ update แนะนำว่าข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยโดยคลิ๊กที่ skip ซึ่งอยู่ด้านล่างขวา

39. จะปรากฏหน้าจอ ready to register with ….. ให้คุณเลือก No, not this time

40. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา

41. จะปรากฏหน้าจอ who will use this computer? ให้คุณกรอกชื่อผู้ใช้ซึ่งมีให้กรอก 5 users แต่คุ

ณกรอกชื่อเดียวได้โดยชื่อนั้นห้ามซ้ำกับชื่อเครื่องที่คุณตั้งไว้ในข้อ 26

42. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา43.คลิ๊ก finish ด้านล่างขวา เป็นอันเสร็จ

44. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าจอใช้งานเป็นรูปทุ่งหญ้าวิวมี เมฆ ถ้าจำไม่ผิดจะมี icon ตัวเดียวคือ recycle bin อยู่ที่มุมล่างขวา คุณสามารถเพิ่ม icon ใช้งานอื่นๆได้โดย คลิ๊กขวาบริเวณพื้นที่ว่างเลือก properties แล้วคลิ๊กที่แท็บ Desktop แล้วคลิ๊ก Customize Desktop (อยู่ใกล้ๆ ปุ่ม OK) จะปรากฏหน้าต่างDesktop Item ที่แท็บ general ให้คุณคลิ๊กถูกที่ Desktop icon ที่คุณต้องการโชว์บนหน้า Desktop หลังจากนั้นคลิ๊ก OK เป็นอันเรียบร้อย